เคล็ดลับที่ไม่ลับ ทำ Food Delivery อย่างไรให้มีกำไร !!!

FD_Blog_เคล็ดลับที่ไม่ลับ

         เมื่อผู้ประกอบการร้านอาหารตระหนักดีว่าบริการส่งอาหารเป็นวิธีสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของตน ‘อยู่รอด’ และขยายธุรกิจของเราได้ แต่บางคนก็ยังจับปลายสายไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนหรือจะเดินไปสู่ความรอดนั้นอย่างไร แต่อย่ากังวลไป เพราะวันนี้เรามี ‘เชฟจ๊อบ-ณัฐธินี พลอยทอง’ ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านร้านอาหารจากแม็คโคร หอก อคาเดมี่ ผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษากับร้านอาหารมากมาย เชฟจ็อบจะชี้ให้เราดู ความสำคัญของการส่งอาหารรวมถึงการให้คำแนะนำที่ผู้ประกอบการทุกท่านควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เมื่อคิดจะปรับตัวสู่การสั่งอาหาร

การจัดส่งมีความสำคัญและจะมีวิธีการ ‘เอาตัวรอด’ อย่างไร?

         “ต้องสนใจก่อนว่า Food Delivery ที่เริ่มในประเทศไทยมาหลายปีแล้ว ซึ่งก่อน covid-19 จะเริ่มระบาด ก็มีผู้ประกอบการเริ่มทำ Delivery กันแล้ว แต่ตอนนั้นอาจจะแค่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมด สำหรับร้านอาหารสามารถสร้างรายได้จากรายได้ทั้งหมด” แต่เราเริ่มสังเกตกระแสการตลาดกันบ้างแล้วว่ามีผู้ประกอบการเกิดใหม่บางคนที่เป็นดาราขายเดลิเวอรี่เพียง 100% เท่านั้น ไม่มีหน้าร้านเลย ตอนนี้เมื่อโควิดระบาดจนถึงล็อกดาวน์ปีที่แล้ว หลายร้านเมื่อก่อน ที่ไม่เคยปรับให้ต้องขายในแอฟ ทำให้ยอดขายลดลงไปบ้าง เรียกได้ว่าร้านอาหารไม่มีทางเลือก จนตอนนี้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมกันหมดแล้ว ร้านค้าเริ่มตระหนักว่าบริการส่งอาหารเป็น ‘ ทางรอด’ เพราะเรารอลูกค้ามาหาเราไม่ไหวแล้ว ต้องพาตัวเองไปบ้านลูกค้า เพราะไม่ใช่ทุกคนจะเดินมาหาเราที่ร้าน จะกล้านั่งทานในร้านนานๆ .เหมือนเมื่อก่อน ใครๆ ก็อยากเอาตัวรอดด้วยกัน”

         หลังจากทำคลอดแล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะรอด แม้ว่าผู้ประกอบการเกือบทั้งหมดจะเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของวิธีการส่งสินค้าแบบ ‘เอาตัวรอด’ แต่ไม่ใช่ว่าพ่อค้าทุกคนที่ขึ้นบนแอพจะขายดีเหมือนกัน หรือแม้แต่ขายดีแต่เจอ

เมื่อหักรายจ่ายต่างๆ ออกไปแล้วอาจไม่กำไรอย่างที่คิด คนอาจจะยังไม่รู้วิธีคิดและจัดการกับเรื่องสำคัญนี้อย่างไร วันนี้เชฟจ๊อบได้นำ 5 เคล็ดลับที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงมาไว้ด้วยกัน

 1. คุณเลือกอาหารมากเกินไปหรือไม่?

         เหมาะหรือพร้อมส่งจากร้านถึงมือคนกิน? ผู้ประกอบการร้านค้าบางรายคุ้นเคยกับการขาย Dine In หรือการขายนอกร้าน เมื่อทำการเดลิเวอรี่บนแอพ พวกเขามักจะยกทุกเมนูอาหารขึ้นไปบนแอพ แต่อาหารบางชนิดอาจไม่เหมาะ หรือไม่มีวิธีการจัดการที่ดี เพื่อที่จะส่งถึงมือนักทาน คุณภาพของรสชาติจะใกล้เคียงกับการนั่งทานที่ร้าน

         รายการอาหารมากเกินไปก็ไม่ใช่ข้อดี ควรเลือกเมนูที่ใช่ “เช่น คุณทานผัดไทยในร้านอาหารที่มีข้าวผัดพร้อม ส่งจากครัวไปที่โต๊ะภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที เส้นไม่อืด ไม่จับเป็นก้อน และผักสดที่มารวมกันก็ไม่เลว เรากินผัดไทยที่อร่อย แต่นี่คือ ‘ประสบการณ์’ ที่ร้านอาหารของคุณ หรือแม้แต่ลูกค้ามาซื้อกลับบ้านไม่เห็นมีใครบ่น แต่อย่าลืมว่าเวลาลูกค้าซื้อกลับบ้าน คุณทำของร้อนและให้อะไรกับเขา และเมื่อเขาหยิบมันออกมามันเป็นความรับผิดชอบของเขา เส้นจะอืดหรือจะติดกัน? อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของทางร้าน เพราะเมื่อไรลูกค้าจะไปกินข้าว? เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าลูกค้าเป็นคนสมัครใจมาซื้อเอง และเขาต้องดูแลเรื่องอาหารของเขาเอง นั่นคือลูกค้าที่เขาสามารถยอมรับได้

2.วิธีการบรรจุและบรรจุอาหารต้องมีความเหมาะสม


         วิธีการบรรจุและการเลือกบรรจุภัณฑ์ ส่งผลต่อประสบการณ์ของลูกค้าในแง่ของวิธีการบรรจุและการเลือกบรรจุภัณฑ์ไม่ว่าอาหารที่ร้านค้าของคุณจะขาย สิ่งที่ร้านอาหารทุกร้านควรพิจารณาอย่างรอบคอบคือ

         วิธีการบรรจุแบบใดที่ยังคงป้องกันไม่ให้อาหารสูญเสียคุณภาพและเก็บภาพที่สวยงามและรสชาติเข้มข้นเมื่อเดินทางจากร้านถึงมือลูกค้า? เพราะวิธีการบรรจุและการเลือกบรรจุภัณฑ์จะส่งผลต่อประสบการณ์การกินของลูกค้า ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่าคราวหน้าจะกลับมาใช้บริการของเราอีกหรือไม่ ถ้าแพ็คอาหารไม่ดี คุณภาพไม่ดี ลูกค้าอาจจะไม่กลับมาใช้บริการเดลิเวอรี่ของเราอีก

3. การจัดการต้นทุน

         ผู้ประกอบการที่ตัดสินใจทำการจัดส่งด้วยแอพพลิเคชั่นต่างๆ เขารู้ว่าสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือต้นทุนของ GP ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เรื่องนี้ต้องเข้าใจว่าหลายๆ
         แอปส่งอาหารต้องเสียเงินเพื่อจัดระบบและทำการตลาดในนามของเรา ซึ่งแต่ละแอปต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง หากกำหนด GP บนพื้นฐานของความเป็นธรรม ก็ถือว่าโอเคและยอมรับได้ เราจะสามารถทำกำไรจากต้นทุนนี้ด้วยได้อย่างไร? ซึ่งโดยหลักการแล้ว ถ้าขายในห้างราคาเดียวตอนขึ้นแอพแล้วเพิ่มความดื้อดึง ลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านอาจจะรู้สึกแย่ ดังนั้น คำถามสำคัญคือ สินค้าหรือเมนูที่เลือกในแอป เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีช่องว่างกำไรหรือไม่? จากนั้นเราจะออกแบบอาหารที่ขายในแอป วิธีหากำไร เช่น บางครั้งขายกะเพราที่ร้านเป็นเมนูเดียว อาจจะบิดเบี้ยวนิดหน่อยให้เป็นกะเพราบวกไก่ทอด 2 ชิ้นให้เป็นชุด แล้วขึ้นราคาอีกครั้ง กลายเป็นของที่ทางร้านไม่มี นี่คือราคาที่คำนวณต้นทุน GP แล้ว การออกแบบเมนูที่เหมาะสมสำหรับการจัดส่ง เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมถึง GP แล้ว และลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า จะช่วยแก้ปัญหาการจัดการต้นทุนได้”

         หากใครสนใจแฟรนไชส์ FoodDelivery FoodDee จากเราสามารถติดต่อเราได้ที่นี่ หรือสามารถลงทะเบียนพาร์เนอร์เพื่อให้ทางเราติดต่อกลับได้ ที่นี่ รับรองคุณจะไม่ผิดหวัง เพราะธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่กำลังมาแรงมากที่สุด ณ ตอนนี้ ไม่ต้องมีหน้าร้านก็เป็นเจ้าของธุรกิจของเราได้

ขอขอบคุณบทความ ทางเราได้อ้างอิงจาก makrohorecaacademy.com


อยากกินแต่ไม่มีเวลาออกไปเลือกซื้อหรือติดงานแต่อยากกินของอร่อย ลองโหลดแอพ Food Dee มาติดตั้งบนเครื่องเพื่อเสิร์ฟความอร่อยถึงมือคุณได้ทุกที่ ทุกเวลา

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Tel: 080-454-1995

– Line: @fooddee.co (อย่าลืมใส่ @ นำหน้าด้วยนะคะ)

– Facebook : fooddee.co

– Website: www.fooddee.co


To empower local economies through innovative solutions and integrated markets